“หากย้อนกลับไปได้ เราจะ…”
หนึ่งในประโยคที่เรามักจะพูด หรือคิดจะพูด ในทุก ๆ ครั้งที่ช่วงเวลาความเป็น “ผู้ใหญ่” ของเราสั่นคลอน
และถ้าย้อนกลับไปได้ เราจะทำอย่างไร ?
ส่องรูปแบบ “ความหวัง” ที่ซ่อนอยู่ 👇
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งของ “ความหวัง” ที่ผู้ใหญ่ส่งต่อให้กับเหล่าเด็ก ๆ นั้น ครั้งหนึ่งเคยเป็น “ความฝัน” เมื่อครั้งพวกเขายังเป็นเด็ก และในห้วงเวลานั้น พวกเขาไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้
เช่นเดียวกับการส่งต่อ “ความหวัง” ผ่านสิ่งที่เรียกว่า “คำขวัญ” อันเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ในระดับชาติ โดยที่เด็ก ๆ เหล่านี้ ไม่ได้รู้ตัวว่าพวกเขากำลังถูกตีกรอบภาพคุณลักษณะของการเป็น
“เด็กที่ดีของชาติ”
เพื่อตอบโจทย์ “ความฝัน” ที่ “ผู้ใหญ่ในประเทศ” อยากเห็นและต้องการให้เป็น
คำขวัญวันเด็ก ≠ ความฝันวัยเด็ก
ซึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติกันมาทุกปี กับการมอบสิ่งที่เรียกว่า “คำขวัญวันเด็ก” จากนายกรัฐมนตรี ที่อาจเรียกได้ว่า นั่นคือ “ความหวังของชาติ” ที่อยากให้ “เด็กไทยต้อง…” เป็นเช่นนั้นตามแต่ละยุคสมัย
คำขวัญวันเด็ก เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี 2499 และดำเนินเรื่อยมามากกว่า 60 ปี
ยังจำได้ไหม “คำขวัญวันเด็ก” ปีแรกคืออะไร ?
ทดสอบความจำ ! พลิกแผ่นป้ายที่คุณคิดว่านั่นคือคำตอบ 👇
ไม่ว่าคุณจะจำ “คำขวัญวันเด็ก” ปีแรกได้หรือไม่ได้ วันนี้เราจะพาคุณย้อนกลับไปดู “คำขวัญวันเด็ก” ตั้งแต่ปีแรก
แล้วมองสิ่งที่เรียกว่า “ความหวัง” ที่เด็กแต่ละยุคสมัยถูกกำหนดให้เป็น !
สีตาม Generation ของนายกฯ Lost Generation Greatest Generation Silent Generation Baby Boomer Generation X
กดลูกศรเพื่อเลื่อน ◀️ ซ้าย-ขวา ▶️
เจาะ KEY MESSAGE นายกรัฐมนตรีไทยผ่านคำขวัญวันเด็ก
คลิกเพื่อดูสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของ Key Message 👇
ทำไมนายกฯ เลือกที่จะส่งต่อแนวคิดเหล่านี้ ?
หากมองนายกฯ แต่ละยุคผ่านคุณลักษณะเฉพาะของ GENERATION จะทำให้เข้าใจบริบทสังคม พฤติกรรม สไตล์การทำงาน เป้าหมาย และความคาดหวัง ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
Share This 👇
Created by
Digital Media Department
Chalee Nawatharadol
Kantida Kunnapatee
Pimtawan Naeprakone
Pitchaya Jaisuya
Narongsak Somong
Phuresaphon Jantapoon
© Thai Public Broadcasting Service. All Rights Reserved 2021