“นโยบายของรัฐ” มีส่วนสำคัญให้ประชาชนมีบ้าน เมื่อดูนโยบายของรัฐที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า “โครงการบ้านเอื้ออาทร” ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) แม้จะมีปัญหามากมาย เช่น สร้างไกลจากตัวเมืองมาก ผู้บริหารทุจริตจนถูกศาลพิพากษาจำคุก ฯลฯ แต่ก็ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยมีบ้าน
ย้อนดูโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นโครงการของรัฐบาล เมื่อปี พ.ศ.2547 สมัย นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดำเนินการโดย กคช. มีเป้าหมายสร้างบ้าน 1 ล้านหลัง ทั้งลักษณะบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บ้านแฝด 2 ชั้น และอาคารชุดสูงไม่เกิน 5 ชั้น รองรับให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 – 15,000 ต่อเดือน ได้เข้าถึงที่อยู่อาศัยราคาถูก ราคาระหว่าง 400,000 – 700,000 บาท เป็นของตนเอง
โดยสามารถผ่อนชำระกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
รัฐบาลทักษิณ มีเป้าหมายสร้างบ้านเอื้ออาทร
ประชาชนยังได้ประโยชน์จาก “บ้านเอื้ออาทร” จนถึงวันนี้
นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หรือหมอมิ้ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการบ้านเอื้ออาทรว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่ได้ริเริ่มบ้านเอื้ออาทร เพราะคิดว่าคนที่มีรายได้น้อยน่าจะมีที่อยู่ที่มั่นคง ตอนนั้นได้มอบให้การเคหะแห่งชาติสร้างบ้านราคาถูก ผ่อนชำระได้ในราคาเท่ากับค่าเช่า พื้นที่ราว 10 กว่าตารางวา ทุกวันนี้ประชาชนยังใช้ประโยชน์ได้ ตรงนี้คือสิ่งสำคัญ
ทั้งนี้ อะไรที่ทำดีอยู่แล้วก็ทำต่อไป และเรื่องนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะหารือกับสำนักงบประมาณต่อไป
“หมอมิ้ง” ชี้ในปัจจัย 4 "บ้าน" สำคัญสุด
ในโอกาสที่ ไทยพีบีเอส จัดเสวนา “The Visual Talk : Home & Hope คนไทยต้องมีบ้าน” เชิญชวนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และทุกภาคส่วน เพื่อมาตระหนักถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 20 ปี ว่าปี พ.ศ.2579 คนไทยทุกคนต้องมีบ้าน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566
นพ. พรหมินทร์ มองว่า คำว่า Home & Hope ผมชอบนะ ในปัจจัย 4 นั้นสำคัญสุดคือ บ้าน ฉะนั้นเจตนาของรัฐบาลนี้ ยึดมั่นความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้ขาดแคลน ผู้ยากไร้
รัฐบาลเชื่อถ้าเศรษฐกิจโต ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
นพ. พรหมินทร์ ยังกล่าวถึงกรณี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. ระบุว่าในงาน The Visual Talk ว่าปี 2567 จะมีบ้านราคาถูกสำหรับเฟิร์ส จ็อบเบอร์ และรับจะไปศึกษาแนวคิดการตั้งกองทุนเงินออมเพื่อที่อยู่อาศัย ว่า ในรายละเอียดต่าง ๆ นั้น คิดว่ารมว.พม. จะนำเจตนาและเข้าใจเรื่องเหล่านี้ ในการผ่อนภาระคิดว่าจะนำสองสิ่งนี้มาแมทช์พูดง่าย ๆ คือ มีเงินกู้ราคาถูก และนำเงินไปสร้างหลักประกันพื้นฐานคือ ที่อยู่อาศัย
ส่วนเป้าหมายปี พ.ศ.2579 คนไทยทุกคนจะมีบ้านหรือไม่นั้น นพ. พรหมินทร์ กล่าวว่า น่าจะเป็นความมุ่งหมาย ที่ได้ตั้งเป้าและใส่รายละเอียด ที่สำคัญคือ รัฐบาลนี้ตั้งเป้าให้เศรษฐกิจโต เชื่อว่าเมื่อเศรษฐกิจโตทุกอย่างจะดีเอง วันนี้จะพูดอะไรก็ได้ เช่นปี 2579 อาจนานไป แต่สำคัญคือ เรามุ่งปัจจุบันให้เศรษฐกิจโต และทำให้คนไทยสร้างศักยภาพ
“โครงการของรัฐบาลมีหลายเรื่อง เช่น สร้างรายได้ การท่องเที่ยว เรื่องสำคัญของคนที่รายได้ต่ำ เฟิร์ส จ็อบเบอร์ คือซอฟต์ พาวเวอร์ ที่ตั้งเป้าทำให้หนึ่งครอบครัวสร้างรายได้ 200,000 บาท/ปี โดยนำศักยภาพของตัวเองมาบ่มเพาะ และมีโอกาสสร้างรายได้ เมื่อมีความรู้ความสามารถกับศักยภาพของตัวเอง เชื่อมกับศักยภาพกับตลาด และมีแหล่งทุนเข้ามาเสริม ตรงนี้คือความมุ่งหมายของซอฟต์ เพาเวอร์ที่จะตอบโจทย์หลายเรื่อง เพราะมีเงินแล้วจะสามารถหาอย่างอื่นได้”
สุดท้ายนี้ รัฐบาลปัจจุบันจะทำให้คนไทยมีบ้านอย่างไร นพ. พรหมินทร์กล่าวว่า ขึ้นกับเจตนาที่มุ่งมั่นจะทำ เพราะเมื่อ 20 ปีที่แล้ว รัฐบาลไทยรักไทยริเริ่มบ้านเอื้ออาทร แน่นอนที่สุด การขยายต่อความคิดนี้ต้องทำต่อไป เพราะปัจจัย 4 เป็นสิ่งสำคัญ